หลีกทางหน่อย ขาใหญ่จะเดิน! ตำรวจเม็กซิโกต้องหยุดรถ ให้จระเข้ยักษ์ข้ามถนน

หลีกทางหน่อย ขาใหญ่จะเดิน! ตำรวจเม็กซิโกต้องหยุดรถ ให้จระเข้ยักษ์ข้ามถนน

เมื่อวานนี้ (14 มิ.ย.) มีรายงานจากเดลีเมล์ เผยภาพวีดิโอจระเข้น้ำจืดตัวยักษ์เดินข้ามถนนเพื่อกลับลงทะเลสาบ ถิ่นที่อยู่ของมัน ในเมืองตัมปิโก รัฐตะเมาลิปัส ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเม็กซิโก โดยตำรวจได้ช่วยอำนวยความสะดวกโดยการหยุดรถให้เจ้าจระเข้เดินข้ามไปได้อย่างสะดวกปลอดภัย แถมชาวบ้านย่านดังกล่าวที่คุ้นเคยกับเจ้าจระเข้ตัวผู้นี้ ยังได้ตั้งชื่อมันว่า ฆวนโช อีกด้วย

เหตุการณ์นี้มีผู้ที่สัญจรผ่านทางนั้นถ่ายคลิปวีดิโอเก็บไว้หลายคน 

โดยมีหลายคนพากันมามุงดู ขณะที่มีหญิงสาวคนหนึ่งตะโกนว่า ‘เป็นไปไม่ได้ ! ดูสิ มันกำลังข้ามถนน’ และหลังจากวีดิโอถูกเผยแพร่ไปในโซเชียลมีเดียก็มีผู้คนแชร์และพูดถึงกันอย่างมากมาย

นายเปโดร กรานาดอส เจ้าหน้าที่ประสานงานหน่วยงานคุ้มครองพลเรือนยืนยันว่า ได้ช่วยเจ้าฆวนโชให้กลับลงน้ำ โดยไม่มีปัญหา เชื่อว่าเจ้าฆวนโชขึ้นจากทะเลสาบที่มันอยู่ตั้งแต่ช่วงกลางคืน และต้องการหนีร้อนจากแสงแดดกลับลงไปในทะเลสาบตามเดิม

ฮ่องกงประท้วงส่งผู้ร้ายข้ามแดน – วันที่ 9 มิ.ย. สถานการณ์ทางการเมืองในฮ่องกงปะทุขึ้นอีกครั้ง เมื่อประชาชนชาวฮ่องกงออกมาเดินประท้วงกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน โดยการชุมนุมประท้วงเริ่มต้นขึ้นมาตั้งแต่วานนี้ต่อเนื่องมาจนถึงกลางคืน จากจำนวนแสนทบทวีเป็นมวลชนเรือนล้าน คิดเป็นร้อยละ 14 ของประชากรในฮ่องกงทั้งหมด นับเป็นการชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ที่สุด ตั้งแต่การ “ปฏิวัติร่ม” เมื่อปี 2557

การผลักดันร่างกฎหมายนี้ต้นเหตุมาจากคดีฆาตกรรมในไต้หวัน ผู้ต้องหาเป็นชายฮ่องกงวัย 19 ปี เขาพาแฟนสาวที่กำลังตั้งครรภ์ไปเที่ยวไต้หวันเมื่อ ก.พ. 2561 และสังหารเธอที่นั่นก่อนหนีกลับฮ่องกง

แต่ทางการไต้หวันไม่สามารถขอตัวคนร้ายมาดำเนินคดี เพราะไม่มีข้อตกลงส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน

ร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดงจะเปิดทางให้จีน ไต้หวัน และมาเก๊า สามารถส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน ในกรณีมีผู้ต้องสงสัยนั้นถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดทางอาญา ชาวฮ่องกงนั้นกังวลว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการจับกุมผู้เห็นต่างทางการเมืองและผู้ประท้วงให้กับทางการจีน แม้ว่าทางการฮ่องจะรับประกันว่า ผู้ร้ายที่เข้าเกณฑ์กฎหมายจะต้องมีโทษจำคุก 7 ปีขึ้นไป

แคร์รี แลม ผู้บริหารฮ่องกงเป็นหนึ่งในเป้าประท้วง เพราะนโยบายท่าทีของเธอที่เป็นมิตรต่อรัฐบาลจีน นำมาซึ่งความหวั่นใจของชาวฮ่องกงว่า ระบบ ‘one country, two systems’ จะถูกจีนแซกแทรงและมามีอิทธิพลเหนือฮ่องกง

การประท้วงอย่างสันติเริ่มรุนแรงตึงเครียดขึ้นเมื่อเข้าสู่เวลากลางคืน ภาพจากนักข่าวแสดงให้เห็นผู้ชุมนุมประท้วงใช้รั้วโลหะพยายามกั้นขวางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระชับพื้นที่การชุมนุม มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้กระบองและเสปรย์พริกไทยปราบปรามผู้ชุมนุม

พ่อชาวจีนเสียลูกชายวัย 7 ขวบ หลังลูกติดในกระโปรงรถจนขาดอากาศหายใจดับสลด

วันนี้ (7 มิ.ย.) มีรายงานข่าวเศร้าจากเว็บไซต์มิร์เรอร์ว่า พ่อรายหนึ่งที่เป็นชาวเมืองหวายอัน มณฑลเจียงซู ทางภาคตะวันออกของจีน ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจท้องถิ่นว่าลูกของตนหายตัวไปเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ตำรวจจึงออกตามหาและตรวจกล้องวงจรปิดในบริเวณต่างๆ จนมาพบกล้องตัวหนึ่งของรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้รถของพ่อเด็ก

โดยตำรวจเห็นจากในภาพบันทึกกล้องวงจรปิดว่าเด็กชายพยายามเปิดประตูหน้ารถแต่เปิดไม่ออก จึงเดินมาตรงกระโปรงหลังและเปิดฝากระโปรงออก ก่อนจะปีนเข้าไป และฝากระโปรงก็ปิดลงโดยบังเอิญ ทำให้เด็กติดอยู่ในนั้นเป็นเวลาหลายชั่วโมง บวกกับอากาศที่ร้อนถึง 37 องศาเซลเซียส ส่งผลให้เด็กเสียชีวิต เมื่อผู้เป็นพ่อเปิดดูก็พบร่างของลูกชายและปล่อยโฮแทบขาดใจ

วันนี้ (6 มิ.ย.) สำนักข่าวเอพี รายงานว่ามียอดผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมต่อต้านและขับไล่คณะรัฐประหารซูดานกว่าร้อยศพแล้ว หลังจากการชุมนุมมีมาอย่างต่อเนื่อง 3 วันที่ผ่านมา โดยกองกำลังความมั่นคงได้นำศพขึ้นจากแม่น้ำไนล์ในกรุงคาร์ทูมถึง 40 ศพ

แม้ฝั่งคณะรัฐประหารจะประกาศยอมเปิดเจรจาแต่กลุ่มผู้ชุมนุมกล่าวว่าทางผู้นำทหารไม่ได้จริงจังกับการเจรจาครั้งนี้เพราะยังปล่อยให้ทหารสังหารผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้สถานการณ์การชุมนุมยังคงตึงเครียด โดยโฆษกกลุ่มต่อต้านรัฐประหารกล่าวว่าจะเดินหน้าประท้วงต่อเพื่อกดดันให้คณะรัฐประการคืนอำนาจให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่พลเรือนเพื่อจัดการเลือกตั้ง

ส่วนศพที่พบในแม่น้ำไนล์นี้ กลุ่มผู้ชุมนุมเชื่อว่าเป็นเหยื่อจากการการสลายการชุมนุมที่ถูกจู่โจมโดยหน่วยทหารพิเศษ โดยมีการเผาเต็นท์และไล่ทุบตีผู้ชุมนุม ทางแพทย์ของกลุ่มประท้วงเห็นทหารขนย้ายศพขึ้นรถทหารแล้วนำไปทิ้งแม่น้ำไนล์ และต่อมามีเจ้าหน้าที่ความมั่นคงได้นำศพขึ้นมา แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าศพเหล่านั้นอยู่ที่ใด

ทั้งนี้ หนึ่งในนักเคลื่อนไหว อมัล อัลไซน์ กล่าวว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจมีมากกว่าที่แพทย์เห็น เพราะมีประชาชนทั่วไปกู้ศพขึ้นมาจากแม่น้ำเช่นกัน และได้นำศพไปที่โรงพยาบาลโดยหลายศพมีแผลถูกยิง และรอยช้ำจากการทุบตี

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป